มาดูกันว่าผิวแห้งเกิดขึ้นได้อย่างไร มีวิธีการดูแลผิวแห้งที่ทำได้เองที่บ้านว่ามีอะไรบ้าง
สวัสดีครับ สำหรับบางคนอาจจะมีผิวแห้งบนใบหน้ามากกว่าคนอื่น การดูแลรักษาใบหน้าด้วยวิธีการที่อ่อนโยนสามารถบรรเทาอาการผิวแห้งและป้องกันไม่ให้ผิวแห้งได้
เราอาจจะประสบกับปัญหาผิวแห้งบนใบหน้าซึ่งมีสาเหตุในการเกิดหลากหลายประการ รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิหรือความชื่นในอากาศ และการใช้สบู่ที่มีสารเคมีที่รุนรง รวมไปถึงโรคเกี่ยวกับผิวต่าง ๆ เช่น โรคผื่นแพ้อักเสบ
ในส่วนใหญ่ เราสามารถรักษาอาการผิวแห้งได้โดยการรักษาที่บ้านหรือผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาผิวที่มีขายตามร้านค้าทั่วไป
ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าอะไรคือสาเหตุของการเกิดผิวแห้งบนใบหน้า รวมไปถึงวิธีการดูแลรักษาผิวแห้งด้วยตนเองที่บ้าน
Designed by Freepik
อะไรคือสาเหตุของการมีผิวแห้ง
ในธรรมชาตินั้นผิวของเราจะผลิตน้ำมันที่เรียกว่าซีบัม เมื่อผิวผลิตซีบัมมากเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดสิวได้ อย่างไรก็ตามการที่ผิวมีความมันนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวของเราและป้องกันเซลล์ผิวหนังจากการติดเชื้อ
โดยผิวที่ไม่สามารถผลิตซีบัมหรือผลิตน้อยเกินไปนั้นอาจจะทำให้ผิวแห้งได้ ผิวแห้งจะทำให้เรารู้สึกคันและอาจจะมีขุยรวมไปถึงรอยแผ่นแดง ผิวแห้งที่เกิดจากการขาดน้ำนั้นจะทำให้ผิวของเราหมองคล้ำหรือมีความหยาบกร้าน
ผิวแห้งบนใบหน้านั้นมีสาเหตุที่เกิดขึ้นบางประการ ได้แก่
- สภาพอากาศหนาวเย็น
- อากาศแห้ง
- การสัมผัสกับสบู่หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่มีสารเคมีที่รุนแรง
- การล้างผิวมากเกินไป
- ผิวมีค่า pH ไม่สมดุล
- โรคเกี่ยวกับผิว เช่น โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โรคผิวหนังอักเสบ และโรคสะเก็ดเงิน
- โรคเบาหวาน
- ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์
- การสูบบุหรี่
- การสัมผัสกับแสงแดดมากเกินไป
มีวิธีการรักษาผิวแห้งได้หลายวิธี โดยวิธีการรักษาที่ดีที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุของผิวแห้งรวมไปถึงความรุนแรงของอาการ การรักษายังมีความแตกต่างกันไปตามสภาพผิวที่แตกต่างกันในแต่ละคน ซึ่งอาจจะแบ่งออกเป็นผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน หรือผสมกัน
Designed by Freepik
ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวทุกวัน
มอยส์เจอไรเซอร์ ยาทาชนิดขี้ผึ้ง และครีมสามารถช่วยเรื่องของการทำงานของเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติในการช่วยกักเก็บน้ำในผิว
การให้ความชุ่มชื้นกับผิวข้ามคืนสามารถให้ประโยชน์เพิ่มเติมได้ โดยก่อนนอนให้เราสามารถทามอยส์เจอไรเซอร์ให้ทั่วทั้งใบหน้าและล้างออกด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนในตอนเช้า
มีมอยส์เจอไรเซอร์วางขายอยู่ในตลาดมากมาย ซึ่งแต่ละคนอาจจะต้องใช้เวลาในการลองผิดลองถูกและค้นหามอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเอง
มอยส์เจอไรเซอร์สูตรอ่อนโยนที่เป็นมิตรกับใบน้ำนั้นมักจะมีส่วนผสมที่มีประโยชน์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- กรดไฮยาลูโรนิค
- เซราไมด์
- ผงข้าวโอ๊ต
มอยส์เจอไรเซอร์ และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอื่น ๆ ในบางชนิดนั้นอาจจะมีสารที่ทำให้ผิวแห้งแย่ลง โดยปกติแล้ว เราควรจะหลีกเลี่ยงสารดังต่อไปนี้
- แอลกอฮอล์
- น้ำหอมหรือสีสังเคราะห์
- ไดออกเซน
- ปิโตรลาทัมหรือปิโตรเลียม
บางคนอาจจะชอบใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ทำมาจากส่วนผสมในธรรมชาติเพื่อช่วยบรรเทาอาการผิวแห้งบนใบหน้า ซึ่งรวมไปถึง
- เจลว่านหางจระเข้
- น้ำมันมะพร้าว
- เชียบัตเตอร์
น้ำมันมะพร้าวและเชียบัตเตอร์นั้นมีน้ำมันจากธรรมชาติ ผู้ที่มีผิวธรรมดา ผิวมัน หรือผิวผสมบางคนอาจจะมีสิวหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้
ใช้คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนต่อผิว
สบู่ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม สี และสารเคมีอื่น ๆ นั้นสามารถทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและแห้งได้ โดยปกติแล้วสำหรับผิวบนใบหน้าเราควรเลือกคลีนเซอร์ที่ปราศจากน้ำหอมหรือสารที่ไม่รุนแรง และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ สีสังเคราะห์ และพลาสติกเป็นส่วนผสม
ส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่
- โซเดียมลอเรทซัลเฟต
- สิ่งได้จากน้ำมันแร่ ได้แก่ ปิโตรเลียมและพาราฟิน
- พาราเบน
- ไดเอทาโนลามีน
- โมโนเอทาโนลามีน
- ไตรเอทาโนลามีน
Designed by Freepik
การผลัดเซลล์ผิวเพื่อขจัดผิวที่เป็นขุย
ผิวจะสร้างเซลล์ใหม่และผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไปตามธรรมชาติ ซึ่งโดยปกติแล้วผิวใหม่จะเข้ามาแทนผิวเก่าในระยะเวลาประมาณหนึ่งเดือนหลังจากผลัดผิว
เมื่อเซลล์ผิวที่ตายแล้วยังติดอยู่บนผิว เราอาจจะสังเกตเห็นรอยแห้งและรูขุมขนอุดตันได้
การขัเผิวจะช่วยให้เราสามารถขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งจะช่วยลดร้องแห้งและช่วยให้ผิวดูดีขึ้น
การผลัดเซลล์ผิวนั้นมีทั้งแบบใช้เครื่องมือและสารเคมี
ผลัดเซลล์ผิวด้วยเครื่องมือ
การผลัดเซลล์ผิวด้วยเครื่องมือนั้นรวไมปถึง
- แปรงทำความสะอาด
- ผ้าขัดผิว
- สครับขัดผิวหน้า
การขัดผิวแบบนี้ทำงานโดยการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากผิว
ผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี
ถึงแม้ว่าดูจากชื่อแล้วอาจจะเป็นวิธีที่ค่อนข้างมีความรุนแรง แต่สำหรับหลาย ๆ คนการผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมีนั้นถือเป็นทางเลือกที่อ่อนโยนมากกว่าแบบใช้เครื่องมือ
สารเคมีสำหรับการขัดผิว ได้แก่ กรดอัลฟาไฮดรอกซี และกรดเบตาไฮดรอกซี
กรดอัลฟาไฮดรอกซีนั้นจะละลายเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนผิวหนัง ในขณะที่กรดเบตาไฮดรอกซีจะแทรกซึมลงไปในผิวเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากรูขุมขน ทั้งกรดอัลฟาไฮดรอกซี และกรดเบตาไฮดรอกซีนั้นจะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งช่วยให้ผิวมีความอ่อนนุ่มได้
วิธีใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว
เราสามารถใช้วิธีการผลัดเซลล์ผิวด้วยเครื่องมือหรือสารเคมีอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างก็ได้
จากการศึกษาขนาดเล็กได้ทดสอบผลของการรวมกรดอัลฟาไฮดรอกซีเข้ากลับการผลัดเซลล์ผิวด้วยเครื่องมือ โดยผู้ทำการศึกษาได้ตั้งข้อสังเกตว่าการรักษาแบบรวมเข้าทั้งสองวิธีนั้นได้ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญมากกว่าการใช้เพียงแต่สารเคมีอย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก็คือการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มากเกินไปอาจจะทำให้คนที่มีผิวแห้งมีอาการแย่ลงได้ โดยคนที่เคยทำเป็นครั้งแรกนั้นควรทดสอบบนผิวหน้าบริเวณเล็ก ๆ ก่อนจากนั้นรอสักสองถึงสามวันเพื่อดูว่าผิวมีปฏิกิริยาอะไรบ้าง ก่อนที่จะขยายพื้นที่มากขึ้น
เราควรหลีกเลี่ยงการขัดผิวทุกวันเพราะอาจจะทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคืองและทำให้ผิวแห้งมากกว่าเดิมได้ การใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ทันทีหลังจากผลัดเซลล์ผิวนั้นสามารถช่วยให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้
ฝึกนิสัยการอาบน้ำที่ดีขึ้น
อุณหภูมิของน้ำที่ดีที่สุดในการล้างหน้าหรืออาบน้ำคือน้ำอุ่นไม่ใช่น้ำร้อน เพราะน้ำร้อนสามารถดึงน้ำมันตามธรรมชาติบนผิวออกมาได้
การใช้เวลาในการอาบน้ำมันเกินไปสามารถขจัดความมันออกจากผิวได้ American Academy of Dermatology ได้แนะนำให้อาบน้ำและแช่น้ำไมม่เกิน 5-10 นาทีเพื่อช่วยรักษาไม่ให้ผิวแห้ง
เราควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ทันทีหลังจากอาบน้ำหรือล้างหน้าเพื่อช่วยให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้น
ใช้เครื่องทำความชื้น
การเปิดเครื่องปรับอากาศอย่างต่อเนื่องในอาคารนั้นอาจจะเป็นการขจัดความชื้นออกจากอากาศและผิวหนังได้
โดยคนที่มีผิวแห้งควรลองลดการใช้เครื่องปรับอากาศ หรือเริ่มใช้เครื่องทำความชื้นเพื่อเพิ่มความชื้นภายในอาคาร
เขียนโดย Akiraz
อ้างอิงจาก Jamie Eske (2019) Top 6 remedies for dry skin on the face, Available at: https://www.medicalnewstoday.com/articles/324935 (Accessed: 24th December 2021).