มาดูกันว่าสิวเกิดจากอะไร? รักษาอย่างไร? มีกี่ประเภทอะไรบ้าง?
สวัสดีครับ สิวเป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังซึ่งทำให้เกิดจุดและสิวโดยเฉพาะบนใบหน้า ไหล่ หลัง คอ หน้าอก และต้นแขน
โดยสิวหัวขาว สิวหัวดำ ซีสต์ และตุ่มแดงนั้นถือว่าเป็นสิว และสิวเป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยในสหรัฐอเมริกาซึ่งส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันถึง 50 ล้านคนต่อปี
โดยสิวมักจะเกิดขึ้นในช่วงวัยแรกรุ่นในตอนที่ต่อมไขมันเริ่มทำงาน แต่ก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัยซึ่งไม่เป็นอันตรายแต่หากดูแลรักษาไม่ดีก็อาจจะทิ้งรอยแผลเป็นบนผิวหนังได้
ต่อมหมวกไตจะผลิตฮอร์โมนเพศชายและจะไปกระตุ้นต่อมผลิตน้ำมันซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง
ในสหรัฐอเมริกามีคนอย่างน้อย 85% ในระหว่างอายุ 12 ถึง 24 ปี ได้ประสบกับปัญหาของสิว
บทความนี้เราจะมาดูกันว่าสาเหตุของการเกิดสิวคืออะไร รวมไปถึงวิธีการดูแลรักษา และประเภทของสิวกัน
การรักษาตัวเองจากที่บ้าน
มีวิธีการดูแลสิวด้วยตัวเองที่บ้านแนะนำมากมาย แต่จากการวิจัยนั้นไม่สนับสนุนวิธีการเหล่านี้ทั้งหมด
อาหาร บทบาทของอาหารยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะทำให้สิวแย่ลงอย่างไร แต่นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่าคนที่รับประทานอาหารที่มีวิตามินเอและวิตามินอี รวมไปถึงแร่ธาตุสังกะสีในปริมาณที่เหมาะสมอาจจะมีความเสี่ยงในการเกิดสิวที่มีความรุนแรงน้อยกว่า จากบทวิจารณ์หนึ่งได้อธิบายถึงความเกี่ยวข้องระหว่างสิวกับอาหารว่ายังเป็นที่ถกเถียงกัน แต่ในบทวิจารณ์ได้แนะนำว่าการรับประทานอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำอาจจะช่วยได้
ทีทรีออยล์ จากวารสารที่ตีพิมพ์ใน Indian Journal of Dermatology, Venereology และ Leprology โดยผลการศึกษาในผู้ป่วย 60 รายได้ชี้ให้เห็นว่าทีทรีออยล์ 5% อาจจะช่วยรักษาสิวที่มีระดับความรุนแรงน้อยถึงปานกลางได้
ชา มีหลักฐานบางชิ้นได้กล่าวว่าโพลีฟีนอลในชา ซึ่งรวมไปถึงชาเขียวนั้นหากผ่านวิธีการเตรียมแบบพิเศษอาจจะมีประโยชน์ในการลดการผลิตซีบัมและรักษาสิวได้ อย่างไรก็ตามโพลีฟีนอลนั้นเป็นสารประกอบที่ต้องสกัดออกมาจากชาแทนที่จะใช้ชาโดยตรง
มอยเจอร์ไรเซอร์ นักวิจัยได้กล่าวว่ามอยเจอร์ไรเซอร์สามารถช่วยปลอบประโลมผิวได้ โดยเฉพาะการใช้สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสิว เช่น ไอโซเตรติโนอิน มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ที่มีความเข้มข้นอย่างน้อย 10% หรือวิชฮาเซลสามารถช่วยปลอบประโลมผิวและอาจลดการอักเสบได้
สาเหตุ
ผิวหนังของมนุษย์มีรูขุมขนที่เชื่อมต่อกับต่อมไขมันใต้ผิวหนัง โดยต่อมขุมขนนั้นเชื่อมต่อกับรูขุมขน โดยต่อมขุมขนนั้นเป็นถุงขนาดเล็กที่ทำหน้าที่ผลิตและหลั่งของเหลวออก
ต่อมได้ผลิตน้ำมันที่เรียกว่าซีบัม ซีบัมจะนำเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกมาผ่านทางรูขุมขนไปยังบนผิวหนัง และเส้นขนจะงอกออกมาจากรูขุมขนเหล่านี้
สิวจะเกิดขึ้นเมื่อรูขุมขนเกิดการอุดตัน และมีน้ำมันสะสมอยู่ใต้ผิวหนัง
เซลล์ผิวหนัง ซีบัม และเส้นขนอาจจะจับกันเป็นก้อนได้ โดยก้อนนี้จะติดเชื้อแบคทีเรียและทำให้อาการบวมเกิดขึ้น สิวจะเริ่มก่อตัวเมื่อก่อนนี้เริ่มหายไป
แบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังและก่อให้เกิดการติดเชื้อของสิวเรียกว่า Propionibacterium acnes (P. Acnes)
จากการวิจัยได้แนะนำว่าความรุนแรงและความถี่ในการเกิดของสิวนั้นขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของแบคทีเรีย ไม่ใช่แบคทีเรียทั้งหมดที่ทำให้เกิดสิวบางประเภทอาจจะช่วยให้ผิวไม่มีสิวด้วย
ปัจจัยของฮอร์โมน
ในการเกิดสิวนั้นมีหลายปัจจัย แต่สาเหตุหลักคาดว่ามาจากระดับแอนโดรเจนเพิ่มขึ้น แอนโดรเจนเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่จะเริ่มมีระดับเพิ่มขึ้นในช่วงวัยรุ่น สำหรับในผู้หญิงฮอร์โมนนี้จะถูกแปลงเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจน
ระดับของแอนโดรเจนที่เพิ่มขึ้นนั้นจะทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังเจริญเติบโตเช่นกัน โดยเมื่อต่อมไขมันใหญ่ขึ้นก็จะผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ส่งผลให้น้ำมันส่วนเกินได้ทำลายผนังเซลล์ในรูขุมขนทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโต
ปัจจัยอื่น ๆ
จากการศึกษาบางชิ้นได้แนะนำว่าปัจจัยทางด้านพันธุกรรมนั้นอาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดสิวได้
โดยสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดสิวนั้นได้แก่
- ยาบางชนิดที่มีแอนโดรเจนและลิเทียมเป็นส่วนผสม
- เครื่องสำอางที่มีความมันสูง
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
- ความเครียดทางอารมณ์
- ประจำเดือน
การรักษา
การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิวที่เกิดขึ้น
สิวรุนแรงเล็กน้อย
สิวที่มีอาการไม่รุนแรงนั้นสามารถรักษาด้วยยาที่หาซื้อได้ทั่วไป เช่น เจล สบู่ แผ่นแปะ ครีม และโลชันทาผิว
ครีมและโลชันเหมาะกับผิวของคนที่แพ้ง่าย เจลแอลกอฮอล์นั้นอาจจะทำให้ผิวแห้งซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีผิวมัน
ยารักษาสิวทั่วไปอาจจะมีส่วนผสมดังต่อไปนี้
- รีซอร์ซินอล ช่วยสลายสิวหัวดำและสิวหัวขาว
- เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เร่งการเปลี่ยนผิว และชะลอการผลิตซีบัม
- กรดซาลิไซลิก ช่วยสลายสิวหัวดำและสิวหัวขาว และช่วยลดการอักเสบรวมไปถึงอาการบวม
- เรตินเอ ช่วยปลดล็อกรูขุมขนด้วยการผลัดเซลล์ผิว
- กรดอะเซลาอิก เสริมสร้างเซลล์ที่เรียงตามรูขุมขน หยุดการเพิ่มของซีบัม และลดการเติบโตของแบคทีเรีย มีครีมที่ใช้สำหรับรักษาสิวซึ่งอยู่ในรูปแบบอื่นที่ใช้รักษาโรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย
โดยแนะนำให้เริ่มต้นกับยาที่มีฤทธิ์ไม่แรง เนื่องจากบางอย่างอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง เกิดรอยแดง หรือรอยแผลเป็นเมื่อใช้ครั้งแรกได้
โดยผลข้างเคียงเหล่านี้จะลดลงหลังจากใช้ติดต่อกัน ถ้าเกิดไม่ลดลงให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน
การรักษาสิวรุนแรงระดับปานกลางถึงรุนแรง
สำหรับการรักษาสิวที่มีระดับความรุนแรงปานกลางถึงรุนแรง การรักษากับผู้เชี่ยวชาญในด้านผิวหรือแพทย์ผิวหนังอาจจะเหมาะสมกว่า
โดยแพทย์อาจจะจ่ายยาที่เป็นเจลหรือครีมคล้าย ๆ ที่หาซื้อได้ตามทั่วไปแต่มีฤทธิ์ที่รุนแรงกว่า หรือยาปฏิชีวนะแบบรับประทานหรือทาเฉพาะที่
การฉีดคอร์ติโคสเตียรอยด์
หากสิวกลายเป็นซีสต์เริ่มมีความอักเสบอย่างรุนแรง อาจจะทำให้ซีสต์แตกได้ซึ่งนำไปสู่การเกิดรอยแผลเป็น
ผู้เชี่ยวชาญอาจจะรักษาซีสต์อักเสบได้โดยการฉีดคอร์ติโคสเตียรอยด์แบบเจือจาง ซึ่งสามารถช่วยป้องกันการเกิดรอยแผลเป็น ลดการอักเสบ และช่วยเร่งกระบวนการรักษา โดยซีสต์จะค่อย ๆ หายไปภายในสองถึงสามวัน
ยาปฏิชีวนะ
สำหรับผู้ป่วยที่มีสิวระดับปานกลางถึงรุนแรงอาจจะรับประทานยาปฏิชีวนะนานถึง 6 เดือน
ยาปฏิชีวนะใช้เพื่อลดจำนวนของ P. Acnes โดยจะเริ่มใช้ในปริมาณสูงและค่อย ๆ ลดลงเมื่อสิวหาย
ยาปฏิชีวนะสามารถลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและลดการอักเสบได้ โดยยาปฏิชีวนะส่วนใหญ่ที่ใช้รักษาสิว คือ อิริโทรมัยซิน และเตตราไซคลีน
ยาคุมกำเนิด
ในผู้หญิงยาคุมกำเนิดสามารถช่วยควบคุมสิวได้โดยการหยุดต่อมไขมันที่ผลิตน้ำมันมากเกินไป โดยยาคุมกำเนิดมักใช้รักษาสิวในระยะยาว ซึ่งอาจจะไม่เหมาะสมสำหรับผู้หญิงที่
- มีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
- สูบบุหรี่
- มีประวัติเป็นไมเกรน
- มีอายุมากกว่า 35 ปี
ก่อนใช้สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงคือควรขอคำปรึกษาจากสูตินรีแพทย์ก่อน
ยาต้านจุลชีพชนิดทาเฉพาะที่
ยาต้านจุลชีพชนิดทาเฉพาะที่นั้นมีเป้าหมายเพื่อลด P. Acnes ในผู้ป่วยที่เป็นสิวระดับปานกลางถึงรุนแรง ตัวอย่างเช่น คลินดามัยซิน และโซเดียมซัลฟาเซตาไมด์
โดยแพทย์ผิวหนังอาจจะจ่ายยาเรตินอยด์ทาเฉพาะที่ให้
ยาเรตินอยด์ทาเฉพาะที่เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอนั้นช่วยเปิดรูขุมขนและป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวขาวและสิวหัวดำ
ไอโซเตรติโนอิน
ไอโซเตรติโนอินเป็นยาเรตินอยด์ชนิดรับประทานที่มีฤทธิ์ค่อนข้างแรง โดยใช้ในการรักษาสิวเรื้อรังและสิวที่มีความรุนแรงที่ยาหรือวิธีการรักษาอื่น ๆ ไม่สามารถรักษาได้
ไอโซเตรติโนอินเป็นยาที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดเพราะมีผลข้างเคียงอย่างรุนแรง โดยผู้ป่วยต้องลงนามในแบบฟอร์มยินยอมเพื่อรับทราบความเสี่ยงในการใช้
โดยผลข้างเคียงของไอโซเตรติโนอิน ได้แก่ ผิวแห้ง ริมฝีปากแห้ง เลือดกำเดาไหล ความผิดปกติของทารกในครรภ์หากใช้ในระหว่างการตั้งครรภ์ รวมไปถึงอารมณ์แปรปรวน
คนที่รับประทานยาไอโซเตรติโนอินจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงอาหารเสริมวิตามินอี เนื่องจากอาจจะทำไปสู่การเกิดอาการได้รับวิตามินเอมากเกินไป
ประเภทของสิว
สิวนั้นมีความแตกต่างกันไปตามขนาด สี และระดับของความเจ็บปวด ดังต่อไปนี้
- สิวหัวขาว สิวประเภทนี้จะอยู่ใต้ผิวหนังและมีขนาดเล็ก
- สิวหัวดำ สามารถมองเห็นได้ชัดเจน มีสีดำและปรากฏบนพื้นผิวของผิวหนัง
- สิวแบบตุ่ม สามารถมองเห็นได้บนพื้นผิวของผิวหนัง เป็นตุ่มเล็ก ๆ ซึ่งมักมีสีชมพู
- สิวแบบตุ่มหนอง สามารถมองเห็นได้ชัดเจนบนผิวของผิวหนัง โดยจะมีสีแดงที่โคนสิวและมีหนองอยู่ด้านบน
- สิวแบบก้อน สามารถมองเห็นได้ชัดเจนบนผิวของผิวหนัง เป็นสิวเม็ดใหญ่ แข็ง และเจ็บ ซึ่งฝังลึกลงไปในผิวหนัง
- สิวซีสต์ สามารถมองเห็นได้ชัดเจนบนผิวของผิวหนัง และมีอาการเจ็บรวมไปถึงเต็มไปด้วยหนอง สิวซีสต์อาจทำให้เกิดแผลเป็นได้
Designed by Freepik
เคล็ดลับการป้องกันและการจัดการกับสิว
สุดท้ายมาดูเคล็ดลับในการดูแลผิวที่มีสิวหรือมีโอกาสที่จะมีสิว ดังนี้
- สำหรับคนที่มีสิวโดยเฉพาะให้ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นและใช้สบู่ที่มีฤทธิ์อ่อนไม่เกินวันละสองครั้ง
- อย่าขัดผิวหรือทำให้สิวแตก เพราะอาจจะทำให้เชื้อลงลึกเข้าไปในผิวมากขึ้น ซึ่งสามารถทำให้เกิดการอุดตัน บวม และแดงได้มากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการบีบสิวเพราะจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้
- ผู้เชี่ยวชาญสามารถรักษาสิวที่ต้องรีบรักษาได้
- หลีกเลี่ยงการเอามือสัมผัสใบหน้า
- ถือโทรศัพท์ให้ห่างจากใบหน้าในขณะโทรศัพท์ เนื่องจากอาจมีซีบัมและสารตกค้างบนผิวติดไปกับโทรศัพท์ได้
- ทำความสะอาดแว่นตาเป็นประจำ เพราะความมันและสารตกค้างบนผิวหนังจะติดอยู่บนแว่นตา
- หากมีสิวขึ้นที่หลัง ไหล่ หรือหน้าอก ให้ลองสวมเสื้อผ้าหลวม ๆ เพื่อให้ผิวหนังได้มีที่หายใจ และหลีกเลี่ยงสิ่งที่รัดแน่น เช่น ที่คาดผม หมวกแก๊ป ผ้าพันคอ หรือหากจำเป็นต้องใช้งานก็คือซักหรือทำความสะอาดบ่อย ๆ
- เลือกเมคอัพสำหรับผิวแพ้ง่าย และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ และลบเมคอัพก่อนนอน
- เมื่อโกนหนวดให้ใช้เครื่องโกนหนวดไฟฟ้าหรือมีดโกนที่มีความคม รวมไปถึงทำให้ผิวและเครานุ่มด้วยน้ำสบู่อุ่น ๆ ก่อนทาครีมโกนหนวด
- รักษาความสะอาดของเส้นผมสม่ำเสมอ เพราะจะมีซีบัมและสารตกค้างบนผิวหนังสะสมบนเส้นผม หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผมที่มีความมัน เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีเนยโกโก้
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดมากเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหนังผลิตซีบัมมากขึ้น และยารักษาสิวหลายชนิดอาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อผิวไหม้แดดได้
- หลีกเลี่ยงความกังวลและความเครียด เนื่องจากจะช่วยเพิ่มการผลิตคอร์ติซอลและอะดรีนาลีน ซึ่งทำให้สิวมีอาการรุนแรงมากขึ้น
- เพื่อป้องกันเหงื่อออกในสภาพอากาศที่ร้อนและมีความชื้นพยายามทำให้ตัวเย็นและแห้ง
เขียนโดย Akiraz
อ้างอิงจาก Yvette Brazier (2017) What you need to know about acne, Available at: https://www.medicalnewstoday.com/articles/107146 (Accessed: 14th December 2021).