มาดูกันว่าฮอร์โมนแปรปรวนคืออะไร? เป็นอย่างไรบ้าง?
สวัสดีครับ ฮอร์โมนแปรปรวนนั้นเกิดขึ้นเมื่อมีฮอร์โมนในกระแสเลือดมากหรือน้อยเกินไป เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายนั้นมีบทบาทสำคัญทำให้การมีฮอร์โมนแปรปรวนเพียงเล็กน้อยก็อาจจะส่งผลต่อร่างกายได้
ฮอร์โมนเป็นสารเคมีที่ผลิตโดยต่อมในระบบต่อมไร้ท่อ ฮอร์โมนจะเดินทางผ่านกระแสเลือดไปทั่วร่างกายและอวัยวะต่าง ๆ โดยการส่งสัญญาณว่าร่างกายต้องทำอะไรและทำตอนไหนบ้าง
ฮอร์โมนมีความสำคัญต่อการควบคุมกระบวนการทางร่างกายโดยส่วนใหญ่ ดังนั้นฮอร์โมนแปรปรวนจึงส่งผลต่อการทำงานของร่างกายหลาย ๆ อย่าง สิ่งที่ฮอร์โมนสามารถช่วยควบคุมได้นั้น ได้แก่
- เมแทบอลิซึม
- น้ำตาลในเลือด
- การเจริญเติบโต
- ความดันโลหิต
- รอบประจำเดือนและสมรรถภาพทางเพศ
- การเติบโตและการพัฒนาทั่วไป
- ระดับอารมณ์และความเครียด
ความไม่สมดุลของอินซูลิน สเตียรอยด์ โกรทฮอร์โมน และอะดรีนาลีนนั้นสามารถส่งผลกระทบต่อทั้งเพศหญิงและเพศชายได้เหมือนกัน
ผู้หญิงอาจจะประสบกับความแปรปรวนของฮอร์โมนเอสโตเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ในขณะที่ผู้ชายจะประสบกับความแปรปรวนของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน
อาการ
อาการของฮอร์โมนแปรปรวนนั้นอาจจะแตกต่างกันไปตามต่อมที่ได้รับผลกระทบ
Designed by Freepik
อาการในผู้หญิง
อาการที่พบบ่อยในผู้หญิง ได้แก่
- อารมณ์เเปรปรวน
- ท้องผูกหรือท้องเสีย
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- ภาวะมีบุตรยาก
- ปวดท้องในขณะมีประจำเดือนหรือหลังมีประจำเดือน
- มีความต้องการทางเพศต่ำ
- นอนไม่หลับ
- น้ำหนักเพิ่มหรือลดโดยไม่ได้ตั้งใจ
- โรคกระดูกเปราะ
- ภาวะขนดก
- มีผื่นขึ้นบนผิวหนัง
Designed by Freepik
อาการในผู้ชาย
อาการที่พบบ่อยในผู้ชายเมื่อมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำ อาจจะรวมไปถึง
- มีความต้องการทางเพศต่ำ
- โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
- ผมบางและการเจริญเติบโตของผมลดลง
- เจ็บบริเวณหน้าอก
Designed by Freepik
สิว
สิวอาจจะเกิดจากการผลิตน้ำมันในต่อมไขมันใต้ผิวหนังมากเกินไป โดยน้ำมันส่วนเกินสามารถอุดตันรูขุมขนและดึงดูดแบคทีเรียที่ทำให้ผิวหนังอักเสบมาได้
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนนั้นอาจจะส่งผลต่อต่อมไขมันในผิวหนังได้ ซึ่งวิธีการส่งผลนั้น เช่น
- ฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรนนั้นช่วยควบคุมการผลิตน้ำมัน หากการผลิตน้ำมันมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขนซึ่งทำให้เกิดสิวได้
- ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ่มขึ้นอาจจะมีส่วนที่ทำให้เกิดสิวจากการตั้งครรภ์ได้ ถึงแม้ว่าแพทย์ยังไม่สามารถรู้ได้อย่างแน่ชัดว่าเป็นอย่างไร
- ผู้หญิงอาจจะมีสิวหลังวัยหมดประจำเดือน ซึ่งอาจจะเกิดมาจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน
นอกจากนี้ผู้หญิงที่มีภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบมีแนวโน้มที่จะมีสิวรุนแรงและมีความเรื้อรังมากกว่าปกติ โดยแพทย์คิดว่าการได้รับฮอร์โมนแอนโดรเจนเพิ่มขึ้น เช่น เทสโทสเตอโรน และการมีภาวะดื้อต่ออินซูลินอาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดสิวได้
น้ำหนักเพิ่มขึ้น
ภาวะฮอร์โมนแปรปรวนนั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการทำงานของร่างกายซึ่งอาจจะทำไปสู่การมีน้ำหนักเพิ่ม ได้แก่
- ฮอร์โมนไทรรอยด์ทำหน้าที่ควบคุมการเผาผลาญของร่างกายรวมไปถึงอัตราการเผาผลาญพลังงาน การมีฮอร์โมนไทรอยด์น้อยเกินไปสามารถชะลอการเผาผลาญของร่างกายซึ่งทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
- การลดระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนในวัยหมดประจำเดือนอาจจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้
- ฮอร์โมนแปรปรวนที่เกิดจากภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบอาจจะส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
- ผู้ที่เป็นโรคคุชชิงมากกว่า 80% นั้นมีรายงานว่าส่วนหนึ่งของอาการนั้นมีในเรื่องของน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นด้วย โดยความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายทำให้ร่างกายผลิตคอร์ติซอลมากเกินไป
ตามหลักการแล้วการรักษาโรคประจำตัวซึ่งเกี่ยวข้องกับภาวะฮอร์โมนแปรปรวนนั้นสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ดีขึ้น
Designed by Freepik
ตั้งครรภ์
การตั้งครรภ์ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากเพื่อช่วยเหลือในเรื่องของการเจริญเติบโตของทารก ซึ่งรวมไปถึงระดับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน เอสโตรเจน และฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรน ถึงแม้ว่าระดับฮอร์โมนเหล่านี้จะแตกต่างกันนั้นในระหว่างการตั้งครรภ์ไม่จำเป็นต้องสมดุลกัน
อย่างไรก็ตามฮอร์โมนบางชนิดที่เพิ่มขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์อาจจะส่งผลต่อผู้หญิงที่ใช้อินซูลินได้ ซึ่งทำไปสู่ภาวะดื้อต่ออินซูลินและโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
Designed by Freepik
ผมร่วง
ผมร่วงที่เกิดขึ้นในผู้ชายนั้นมีความเกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนลดลง เช่น เทสโทสเตอร์โรน ทำให้แพทย์เรียกอาการเหล่านี้ว่าอาการผมร่วงในผู้ชายที่เกิดจากฮอร์โมนเพศ DHT (Dihydrotestosterone) โดยภาวะนี้ทำให้ผมด้านหน้าและกระหม่อมร่วง
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่จะมีภาวะผมร่วงที่เกิดจากกรรมพันธุ์ถึงแม้ว่าจะมีระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงไปตามอายุก็ตาม แพทย์ได้อธิบายว่าผู้ชายอาจจะมีผมร่วงซึ่งเกิดจากพันธุกรรมได้
การทดสอบ
การทดสอบของฮอร์โมนแปรปรวนส่วนใหญ่นั่นขึ้นอยู่กับแพทย์มองว่าสาเหตุนั้นน่าจะเกิดจากอะไร โดยการทดสอบที่แพทย์อาจจะใช้นั้น ได้แก่
- การตรวจเลือด แพทย์สามารถตรวจหาฮอร์โมนบางอย่างจากเลือดได้ เช่น เอสโตรเจน เทสโทสโรน หรือไทรอยด์
- การตรวจจากภาพ เช่น อัลตราซาวนด์ เอกซเรย์ หรือการตรวจด้วยเครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อระบุหาซีสด์หรือเนื้องอกที่อาจจะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนมากเกินไป
- การตรวจปัสสาวะ แพทย์ได้ใช้การตรวจจากปัสสาวะเพื่อวัดระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับรอบประจำเดือนโดยเฉพาะ เช่น ฮอร์โมนฟอลลิเคิลสติมิวเลติง
บริษัทที่ผลิตชุดตรวจด้วยตัวเองที่บ้านอาจจะเสนอผลิตภัณฑ์ที่ให้เราสามารถตรวจเองที่บ้านได้ ซึ่งอาจจะรวมไปถึงการตรวจปัสสาวะหรือเลือก โดยเราควรแน่ใจว่าบริษัทที่ผลิตเหล่านี้มีชื่อเสียงและผ่านการรับรองต่าง ๆ
สาเหตุ
เราทุก ๆ คนอาจจะเจอกับช่วงเวลาของฮอร์โมนแปรปรวนตามธรรมชาติ แต่บางครั้งฮอร์โมนแปรปรวนนั้นเกิดมาจากต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติได้
ต่อมไร้ท่อนั้นเป็นเซลล์ที่ผลิต เก็บ และปล่อยฮอร์โมนเข้าสู่กระแสเลือด ต่อมไร้ท่อนั้นมีอยู่ทั่วร่างกายของเราซึ่งทำหน้าที่ควบคุมอวัยวะอื่น ๆ รวมไปถึง
- ต่อมหมวกไต
- อวัยวะสืบพันธุ์ (อัณฑะและรังไข่)
- ต่อมไพเนียล
- ต่อมใต้สมอง
- ต่อมไฮโปทาลามัส
- ต่อมไทรอยด์และต่อมพาราไทรอยด์
- ตับอ่อนส่วนไร้ท่อ
โรคประจำตัวนั้นสามารถส่งผลกระทบต่อต่อมไร้ท่อได้ รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตและปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมบางอย่างอาจจะส่งผลต่อฮอร์โมนได้เช่นกัน
โรคประจำตัว
โรคประจำตัวไม่เพียงอาจจะส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนยังไม่รวมไปถึง
- เบาหวาน โดยร่างกายผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ
- ภาวะไทรอยด์เป็นพิษและภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ โดยที่ต่อมไทรอยด์ทำงานหนักเกินไปหรือทำงานไม่เต็มที่
- โรคแอดดิสัน โดยที่ต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนไม่เพียงพอ
- โรคคุชชิง โดยที่ต่อมหมวกไตผลิตคอร์ติโคสเตียรอยด์มากเกินไป
- โรคอะโครเมกาลี ซึ่งเป็นการผลิตโกรทฮอร์โมนมากเกินไป
- ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งเป็นการผลิตกลูคากอนมากเกินไป
- ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายผลิตอินซูลินได้มากกว่ากลูโคสในเลือด
- ต่อมไทรอยด์โตเป็นก้อนเดี่ยว ๆ
- เนื้องอกต่อมใต้สมอง
- เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงและซีสต์ที่มีสารน้ำบรรจุอยู่ภายในที่ส่งผลต่อต่อมไร้ท่อ
- ภาวะ Congenital adrenal hyperplasia (CAH) (ระดับคอร์ติซอลต่ำ)
- มะเร็งที่เกี่ยวข้องกับต่อมไร้ท่อ
- เคมีบำบัดและการฉายรังสี
- การขาดสารไอโอดีน (โรคคอพอก)
- ตับอ่อนอักเสบจากกรรมพันธุ์
- กลุ่มอาการเทอร์เนอร์ โดยที่เพศหญิงเกิดมาพร้อมกับโครโมโซม X เพียงตัวเดียว
- กลุ่มอาการพราเดอร์-วิลลี่
- โรคกลัวอ้วน
- การบาดเจ็บมีเลือดออกที่ต่อมใต้สมอง และความผิดปกติทางพันธุกรรมแต่กำเนิดในหญิงตั้งครรภ์และทารกในครรภ์
สาเหตุเพิ่มเติม
สาเหตุของภาวะฮอร์โมนแปรปรวนอื่น ๆ นั้นรวมไปถึง
- ความเครียดเรื้อรัง
- อาหารและโภชนาการที่ไม่ดี
- มีน้ำหนักเกิน
- ใช้ฮอร์โมนทดแทนหรือยาคุมกำเนิด
- การใช้ยาสเตียรอยด์ในทางที่ผิด
- การสัมผัสกับสารพิษ มลพิษ และสารเคมีที่รบกวนต่อมไร้ท่อ รวมทั้งยาฆ่าแมลงและสารกำจัดวัชพืช
โดยธรรมชาตินั้นผู้หญิงมักจะพบกับช่วงของการเกิดฮอร์โมนแปรปรวนได้หลายช่วง ได้แก่
- วัยแรกรุ่น
- ประจำเดือน
- การตั้งครรภ์ การคลอดบุตร และการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
- ระยะเริ่มต้นวัยทอง วัยทอง ระยะหลังวัยทอง
ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะฮอร์โมนแปรปรวนแตกต่างจากผู้ชายเพราะมีระบบต่อมไร้ท่อที่แตกต่างกัน
สาเหตุของการเกิดฮอร์โมนแปรปรวนในผู้หญิง ได้แก่
- ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ
- ใช้ฮอร์โมนทดแทนหรือยาคุมกำเนิด
- ภาวะรังไข่หยุดทำงานก่อนกำหนด
- มะเร็งรังไข่
ผู้ชายยังสามารถเกิดฮอร์โมนแปรปรวนได้เช่นกัน ซึ่งรวมไปถึง
- วัยแรกรุ่น
- อายุมากขึ้น
- ความเครียด
ผู้ชายจะมีภาวะฮอร์โมนแปรปรวนแตกต่างจากผู้หญิงเพราะมีระบบต่อมไร้ท่อที่แตกต่างกัน
ผู้ชายที่มีโรคประจำตัวอาจจะทำให้เกิดฮอร์โมนแปรปรวน ซึ่งรวมไปถึง
- ความผิดปกติแต่กำเนิดหรือโรคประจำตัวอื่น ๆ
- มะเร็งต่อมลูกหมากซึ่งพัฒนาโดยแอนโดรเจนหรือฮอร์โมนเพศชาย
- ภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำซึ่งเกี่ยวกับการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน
- เกิดการบาดเจ็บที่ลูกอัณฑะ
- การฉายรังสีหรือเคมีบำบัด
- ความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น เนื้องอกต่อมใต้สมอง
- โรคต่างๆ เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 เอชไอวี และเอดส์
- ภาวะทางพันธุกรรม เช่น กลุ่มอาการไคลน์เฟลเตอร์ กลุ่มอาการคาลแมนน์ ภาวะเหล็กเกิน
วิธีการรักษา
การรักษาของฮอร์โมนแปรปรวนนั้นอาจจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุ แต่ละคนอาจจะต้องใช้วิธีการรักษาที่แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภท
การรักษาสำหรับผู้หญิง
การรักษาฮอร์โมนแปรปรวนสำหรับผู้หญิงนั้น ได้แก่
- การคุมกำเนิด สำหรับผู้ที่ไม่ได้ต้องการตั้งครรภ์ การควบคุมรอบเดือนและอาการต่าง ๆ สามารถใช้ยาที่มีเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนได้ สิ่งที่ใช้ในการคุมกำเนิดนั้นมีตั้งแต่รูปแบบของยา วงแหวน แผ่นแปะ ยาฉีด หรือห่วงคุมกำเนิด
- เอสโตรเจนเฉพาะที่สำหรับช่องคลอด คนที่มีอาการช่องคลอดแห้งที่มีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน สามารถทาครีมที่มีเอสโตรเจนในบริเวณช่องคลอดเพื่อลดอาการได้ โดยยังสามารถใช้ร่วมกับยาแบบเมล็ดและวงแหวนเพื่อบรรเทาอาการช่องคลอดแห้งได้
- ยาฮอร์โมนทดแทน มียาบางประเภทที่สามารถลดอาการที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับวัยทองได้ชั่วคราว เช่น อาการร้อนวูบวาบ หรือเหงื่อออกตอนกลางคืน
- ยาเอฟลอร์นิทีน (วานิกา) เป็นครีมที่อาจจะช่วยชะลอการเติบโตของขนบนใบหน้าที่มากเกินไปสำหรับผู้หญิงได้
- ยาต้านแอนโดรเจน เป็นยาที่ช่วยขัดขวางฮอร์โมนเพศชายแอนโดรเจน ซึ่งสามารถช่วยจำกัดสิวที่มีความรุนแรง หรือผมร่วงหรือผมเติบโตมากเกินไป
- ยากระตุ้นการตกไข่ Clomiphene (Clomid) และ letrozole (Femara) เป็นยาที่ช่วยกระตุ้นการตกไข่สำหรับผู้ที่มีภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบที่พยายามตั้งครรภ์ แพทย์อาจจะส่งยาเหล่านี้ให้ผู้ที่มีภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบและฉีดโกนาโดโทรปินเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์
- เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ การทำเด็กหลอดแก้วอาจจะช่วยให้ผู้มีภาวะแทรกซ้อนจากภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบตั้งครรภ์ได้เช่นกัน
การรักษาสำหรับผู้ชาย
การรักษาฮอร์โมนแปรปรวนสำหรับผู้ชายนั้น ได้แก่
- ยาเทสโทสเตอโรน เจลและแผ่นแปะที่มี่ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสามารถช่วยลดอาการของภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ และภาวะอื่น ๆ ที่ทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำได้
การรักษาอื่น ๆ
การรักษาฮอร์โมนแปรปรวนเพิ่มเติมนั้น ได้แก่
- ยาเมทฟอร์มิน เป็นยาที่ใช้สำหรับภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบและโรคเบาหวาน เมทฟอร์มินสามารถช่วยลดระดับแอนโดรเจนและระดับน้ำตาลในเลือดได้
- ยาลีโวไทร็อกซีน ยาลีโวไทร็อกซีน เช่น Synthroid และ Levothroid สามารถช่วยภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ได้
การรักษาทางธรรมชาติ
ผู้คนได้ใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากธรรมชาติเพื่อรักษาฮอร์โมนแปรปรวนมาเป็นระยะเวลานานหลายพันปี
อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาทางคลินิกไม่ได้พิสูจน์ว่าการรักษาทางธรรมชาตินั้นสามารถรักษาภาวะฮอร์โมนแปรปรวนรวมไปถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นได้
อาหารเสริม
อาหารเสริมจากธรรมชาติที่ช่วยลดอาการของฮอร์โมนแปรปรวน ได้แก่
- แบล็กโคฮอส ตังกุย เรด โคลเวอร์ และน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสสำหรับช่วยอาการร้อนวูบวาบที่เกิดจากวัยทอง
- โสมสำหรับอาการหงุดหงิดง่าย ความวิตกกังวล และปัญหาการนอนหลับของวัยทอง
- โสมและมาคาสำหรับภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
ก่อนที่จะทำการรักษาแบบธรรมชาติหรือใช้สมุนไพรในการรักษา เราควรปรึกษากับแพทย์เรื่องความปลอดภัยและเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงจากปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเมื่อรับประทานร่วมกับยาอื่น ๆ
การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต
การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตอาจจะช่วยลดโอกาสของการเกิดของฮอร์โมนแปรปรวนและอาการ ได้แก่
- รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีความสมดุล
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- มีสุขลักษณะส่วนบุคคลที่ดี โดยเมื่ออาบน้ำให้เน้นไปที่ส่วนของร่างกายที่มีน้ำมันเยอะ เช่น ใบหน้า คอ หลัง และหน้าอก
- สำหรับคนที่มีสิวน้อยถึงปานกลางให้ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ครีม หรือเจลรักษาสิวที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป
- หลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการร้อนวูบวาบ เช่น อาการร้อนหรือแสบ หรืออาหารและเครื่องดื่มร้อน
- ลดหรือจัดการกับความเครียด
- ฝึกโยคะ นั่งสมาธิ หรือทำสมาธิด้วยมโนภาพ
- จำกัดการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี
- หลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูป
- เปลี่ยนกระทะที่เคลือบสาร Non-stick เป็นกระทะเซรามิก
- ใช้ภาชนะแก้วในการเก็บอาหารอุ่นและเครื่องดื่ม
- จำกัดการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสารเคมีเป็นพิษเป็นส่วนผสม เช่น สารฟอกขาว
- ซื้อผักและผลไม้ที่ปลอดยาฆ่าแมลง
- หลีกเลี่ยงการนำภาชนะพลาสติกเข้าไมโครเวฟ
เขียนโดย Akiraz
อ้างอิงจาก Jennifer Huizen (2021) What to know about hormonal imbalances, Available at: https://www.medicalnewstoday.com/articles/321486 (Accessed: 12th December 2021).