มาดูกันว่าอาหารสามารถช่วยเรื่องเกี่ยวกับสิวอย่างไรบ้าง?

          สวัสดีครับ อาหารอาจจะมีส่วนร่วมในการทำให้เกิดสิวแต่จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม โดยได้มีหลักฐานบางอย่างชี้ให้เห็นว่าเราสามารถลดสิวหรือป้องกันสิวได้โดยการบริโภคกรดไขมันโอเมกา 3 มากขึ้น และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมน้อยลง รวมไปถึงการลดการรับประทานอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง

          ในแต่ละปี สิวเป็นหนึ่งในโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยมากที่สุด และมักจะเกิดในช่วงวัยรุ่นซึ่งพบได้บ่อยให้ช่วงอายุ 12-24 ปี

          สิวนั้นสามารถทำให้ผิวมันและเกิดแผลได้ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลรวมไปถึงระดับความรุนแรงซึ่งอาจจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิต

          ถึงแม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มียาแก้สิว แต่ก็ยังมีวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพเช่นยาตามใบสั่งแพทย์ เจลและครีมที่หน้าซื้อได้ทั่วไป การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตก็สามารถช่วยลดอาการและป้องกันการเกิดสิวได้เช่นกัน

        บางคนเชื่อว่าอาหารนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดสิว จากผลการสำรวจได้มี ค.ศ. 2016 ได้แสดงให้เห็นว่าผู้เข้าร่วม 71% คิดว่าอาหารทอดหรืออาหารมันนั้นทำให้เกิดสิว บางคนคิดว่าเป็นช็อกโกแลต ผลิตภัณฑ์จากนม และน้ำอัดลมนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกันกับการเกิดสิว

        ในวงการแพทย์ได้มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับผลกระทบของอาหารต่อสิว ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนคิดว่าการรับประทานอาหารนั้นไม่มีผลต่อสิว แต่จากผลการศึกษาบางอย่างกลับกลายเป็นอย่างอื่น

        ในบทความนี้ เราจะมาดูเกี่ยวกับผลกระทบของอาหารที่มีต่อผิวหนัง และมาดูกันอีกว่ามีอาหารชนิดที่จะไปกระตุ้นหรือลดการเกิดสิวได้ รวมไปถึงเคล็ดลับสำหรับการรักษาสิวทั่ว ๆ ไป

อาหารมีผลต่อผิวหนังอย่างไร

          สิวจะเกิดขึ้นเมื่อรูขุมขนที่อยู่ในผิวนั้นเกิดการอุดตันโดยเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และแบคทีเรีย หรืออาจจะเป็นทั้งสองอย่าง โดยการอุดตันนี้จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายผลิตซีบัมมากเกินไป โดยซีบัมเป็นน้ำมันที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังแห้ง

          รูขุมขนอุดตันอาจจะทำให้ผิวเกิดการอักเสบและทำให้เกิดสิวรวมไปถึงแผลประเภทอื่น ๆ ได้

          ในช่วงวัยแรกรุ่น ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่เรียกว่า Insulin-like growth factor 1 (IGF-1) มากขึ้น จากการศึกษาบางชิ้นได้แนะนำว่า IGF-1 อาจจะเพิ่มการผลิตซีบัมและทำให้อาการของสิวแย่ลง

          อาหารบางชนิดสามารถเพิ่มระดับของ IGF-1 ได้ การหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้อาจจะทำให้อาการของสิวดีขึ้นและช่วยป้องกันการเกิดสิวได้เช่นกัน

different types of bread made from wheat flour

Designed by Freepik

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

          จากผลการศึกษาในปี ค.ศ. 2016 อาหารดังต่อไปนี้มักจะช่วยเพิ่มระดับ IGF-1

  • ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม
  • อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง (GI) และปริมาณน้ำตาลสูง (GL)

         การวัดค่าดัชนีน้ำตาลเป็นการกำหนดว่าอาหารแต่ละอย่างสามารถเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้เร็วและสูงเพียงใด

         การวัดปริมาณน้ำตาลช่วยให้เราสามารถเปรียบเทียบประเภทของอาหารกับค่าดัชนีน้ำตาลและปริมาณของอาหารต่าง ๆ ได้

         โดยเราสามารถคำนวณ GL โดยใช้สูตรดังนี้

         GL = GI x ปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่อส่วน (กรัม) / 100

         โดยปกติอาหารแปรรูปมักจะมีค่า GI และ GL สูง

          ตามที่ American Diabetes Association ได้กล่าวไว้ รายการข้างล่างต่อไปนี้เป็นตัวอย่างอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง

  • ขนมปัง โดยเฉพาะขนมปังขาวและเบเกิล
  • ซีเรียลอาหารเช้าที่มีรสหวาน เช่น คอร์นเฟลก ข้าวพอง และแบรนเฟลก
  • ซีเรียลสำเร็จรูป เช่น โอ๊ตมีล
  • ผักและผลไม้บางชนิด เช่น เมลอน สับปะรด ฟักทอง และมันฝรั่ง
  • ข้าวขาวสั้น
  • ขนมขบเคี้ยว เช่น เพรทเซล เค้กข้าว และป๊อปคอร์น

         คนที่เป็นสิวบางคนอาจจะหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม โดยตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เช่น นม ชีส ไอศกรีม และโยเกิร์ต

          อย่างไรก็ตาม American Academy of Dermatology (AAD) ได้ชี้ให้เห็นว่าการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูงนั้นอาจจะมีประโยชน์มากกว่าการหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม

         การบริโภคช็อกโกแลตอาจจะทำให้อาการของสิวแย่ลงได้ โดยอาจจะเกิดมาจากช็อกโกแลตมีปริมาณน้ำตาลสูง อย่างไรก็ตาม จากผลการศึกษาขนาดเล็กได้แนะนำว่าช็อกโกแลตที่ไม่หวานที่มีโกโก้ 100% นั้นอาจจะทำให้อาการสิวในผู้ชายที่มีอายุน้อยแย่ลง

          ในปัจจุบัน มีหลักฐานจำนวนเล็กน้อยที่กล่าวว่าอาหารมันทำให้เกิดสิว ต่อมไขมันทำงานมากเกินไปจนเกิดผิวมันไม่ใช่ไขมันและน้ำมันในอาหารที่ทำให้ผิวมัน

Raw salmon meat

Designed by Freepik

มีอาหารอะไรบ้างที่อาจจะช่วยทำให้อาการของสิวดีขึ้น

          จากการวิจัยนั้นยังไม่ค่อยมีอะไรชัดเจนเกี่ยวกับอาหารอะไรบ้างที่สามารถช่วยลดอาการและป้องกันสิว

          อย่างไรก็ตามยังคงจำเป็นที่จะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม อาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมกา 3 อาจจะช่วยลดการอักเสบและช่วยให้อาการของสิวดีขึ้น

          อาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมกา 3 ได้แก่

  • ปลา เช่น ปลาแมคเคอเรล ปลาแซลมอน และปลาซาร์ดีน
  • ไข่ไก่ปลอดสาร
  • ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้
  • ผักโขมและผักเคล
  • ถั่วขาว
  • เนื้อวัวที่เลี้ยงในทุ่งหญ้า
  • ถั่วเปลือกแข็งต่าง ๆ เช่น วอลนัทและอัลมอนด์
  • เมล็ดแฟลกซ์
  • เมล็ดมัสตาร์ด
  • ข้าวป่า

          ถึงแม้ว่ายังจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม โดยมีหลักฐานบางอย่างได้แนะนำว่าอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและไฟเบอร์อาจจะช่วยลดอาการของสิวได้

อาหารป้องกันสิว

          จากผลกระทบของอาหารที่มีต่อสิวที่ยังไม่มีความแน่นอนนั้น ทำให้เป็นเรื่องยากที่เราจะรู้ว่าเราควรรับประทานอาหารอะไรและควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไหนบ้าง

          นอกจากนี้ ยังมีวิธีบางอย่างที่อาจจะใช้ได้ผลกับคนบางคนแต่ใช้ไม่ได้ผลกับคนอื่น ๆ

          การจดบันทึกเกี่ยวกับอาหารที่ทานสามารถช่วยระบุได้ว่ามีอาหารอะไรบ้างที่ทำให้เกิดสิวและทำให้อาการของสิวแย่ลง ซึ่งจำเป็นต้องบันทึกอาหารที่รับประทานทุกมื้อรวมไปถึงของว่าง และยังต้องบันทึกประเภทและความรุนแรงของอาการสิวที่เกิดขึ้นด้วย

          เราควรจดบันทึกติดต่อกันเป็นเวลาสองสามสัปดาห์หรือนานกว่านั้น แล้วนำบันทึกนี้ไปให้แพทย์หรือแพทย์ผิวหนัง

          แพทย์สามารถช่วยมองหาความเกี่ยวข้องระหว่างเวลาของการเกิดสิวและรายการอาหารในบันทึก ซึ่งแพทย์ยังสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเปลี่ยนอาหารที่ต้องบริโภค

          การเปลี่ยนอาหารนั้นต้องอาศัยความอดทน จากข้อมูลของ AAD ได้ระบุว่าการเปลี่ยนการรับประทานอาหารนั้นอาจจะใช้เวลานานถึง 12 สัปดาห์เพื่อให้เห็นผลที่ชัดเจน

เคล็ดลับทั่วไปสำหรับการรักษาสิว

          มียาที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปและยาที่ได้จากแพทย์สั่ง

          แพทย์สามารถแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมตามแต่ละคน ซึ่งขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาหาร สำหรับสิวที่มีความรุนแรง แพทย์อาจจะส่งผู้ป่วยให้แพทย์ผิวหนังรับหน้าที่ในการรักษา

          เคล็ดลับทั่วไปที่เราสามารถปฏิบัติในการรักษาสิว ได้แก่

  • อาบน้ำและล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง รวมไปถึงหลังจากออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา
  • สระผมด้วยแชมพูเป็นประจำโดยเฉพาะคนที่มีผมมัน
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางที่อ่อนโยนที่ผิวและปราศจากน้ำมัน
  • หลีกเลี่ยงการบีบ เกา หรือสัมผัสสิว
  • หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดเป็นเวลานาน

          ตามที่ AAD ได้กล่าวไว้เราควรพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดและสิวด้วย ความเครียดจะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่เรียกว่าแอนโดรเจนมากขึ้น ซึ่งจะไปช่วยกระตุ้นต่อมไขมันบนผิวหนัง โดยต่อมไขมันจะผลิตซีบัมออกมามากขึ้นและอาจจะทำให้เกิดสิวได้

          สิวยังสามารถส่งผลต่อความมั่นใจในตัวเองและสามารถนำไปสู่การเกิดภาวะซึมเศร้าได้โดยเฉพาะในวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาว AAD ได้แนะนำให้มีการรักษาสิวอย่างจริงจังและได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการกับความเครียดและสังเกตเกี่ยวกับภาวะซึมเศร้าที่อาจจะเกิดขึ้นได้

เขียนโดย Akiraz

KAIO

อ้างอิงจาก Scott Harris (2018) Can dietary changes help acne?, Available at: https://www.medicalnewstoday.com/articles/322639 (Accessed: 16th December 2021).

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *