มาดูกันว่า AI มาช่วยเหลือในอุตสาหกรรมประกันภัยอย่างไรบ้าง?
สวัสดีครับ ในหลาย ๆ อุตสาหกรรม ข้อมูลถือเป็นหัวใจสำคัญ การเพิ่มขึ้นจำนวนมหาศาลของข้อมูลในทั่วโลกรวมไปถึงประสิทธิภาพในการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นได้ผลักดันความก้าวหน้าของ AI ไปสู่ขั้นต่อไป ซึ่งทำให้เกิดโอกาสที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมประกันภัย
ในอุตสาหกรรมประกันภัยได้นิยมนำ Artificial Intelligence (AI) เข้ามาช่วยในการจัดการความเสี่ยง การตรวจจับและการป้องกันการโกง ข้อเสนอเฉพาะแต่ละบุคคล การลดการหยุดซื้อสินค้าของลูกค้า ไปจนถึงการทำนายผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การนำ AI เข้ามาช่วยในเรื่องเหล่านี้ ทำให้บริษัทประกันภัยสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้ และรวมไปถึงการคำนวณเบี้ยประกันภัยตามการใช้จริงได้เหมาะสมต่อลูกค้าแต่ละคนอีกด้วย ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า AI จะเข้ามาช่วยอุตสาหกรรมประกันภัยในด้านไหนบ้าง
การพัฒนาผลิตภัณฑ์
การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงและ AI อาจจะกลายเป็นรากฐานสำคัญของผลิตภัณฑ์ประกันภัยในอนาคต โดยจะช่วยให้บริษัทประกันภัยสามารถทำการตลาดแบบ Hyper-Personalization ของผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้ ซึ่งช่วยให้สามารถเพิ่มคุณลักษณะต่าง ๆ ลงในผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างต่อเนื่อง และยังสามารถนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปปรับปรุงข้อเสนอของประกันภัยที่เหมาะสมกับตัวลูกค้าโดยเฉพาะจากตัวติดตามสุขภาพและฟิตเนส เช่น Smart Watch
การประกันภัยตามการใช้งาน ในประเภทนี้แตกต่างจากประกันภัยในแบบที่เราคุ้นเคยกันอยู่ ซึ่งมีข้อดีตรงที่แทนที่จะอาศัยสถิติรวมและแนวโน้มที่เกิดขึ้นในอดีต กลายเป็นการจำลองพฤติกรรมในปัจจุบันของแต่ละคน ซึ่งข้อเสนอที่สามารถกำหนดเองถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ โดยจะจำลองจากความหลากหลายของไลฟ์สไตล์ นิสัย วัฒนธรรม และบุคลิกภาพ ซึ่งสามารถพัฒนาข้อเสนอเหล่านี้ต่อไปเรื่อย ๆ ได้
การขายและการตลาด
การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ได้กล่าวมาในข้างต้น จะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถเสนอทางเลือกให้ผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าและลูกค้าในปัจจุบันสามารถกำหนดข้อเสนอได้เอง เมื่อรวมกับข้อมูลที่ลูกค้าให้มา จะช่วยให้บริษัทแยกแยะประเภทความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น และทำให้บริษัทสามารถเสนอประกันภัยที่เหมาะสมแก่ลูกค้าได้ดีขึ้น ข้อมูลเหล่านี้ยังช่วยให้นักการตลาดวิเคราะห์ได้ว่าข้อเสนอเหล่านี้เหมาะกับลูกค้าประเภทไหน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขายผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
จริง ๆ แล้วลูกค้าคาดหวังให้บริษัทประกันภัยสื่อสารกับลูกค้าบ่อย ๆ 57% ของลูกค้าประกันภัยทั่วโลก ต้องการรับฟังข้อมูลต่าง ๆ จากบริษัทประกันภัยอย่างน้อยทุกครึ่งปี ซึ่งในปัจจุบันมีลูกค้าเพียงแค่ 47% เท่านั้นที่ได้ตามที่กล่าวมาในข้างต้น ในขณะที่ AI ได้แพร่หลายมากขึ้น การนำ AI เข้ามาช่วยจะช่วยให้กระบวนการทำงานต่าง ๆ เป็นไปอย่างอัตโนมัติ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ต้องการอีกด้วย
ราคาและการรับประกันภัย
ด้วยผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ถูกปรับคุณลักษณะให้เหมาะสมกับลูกค้าหลายแสนราย การกำหนดราคาและการรับประกันภัยของประกันภัยที่ซับซ้อนจึงมีความยากเท่ากัน รูปแบบการกำหนดราคาแบบเดิม ๆ ที่ยังใช้ระบบการคำนวณแบบง่าย ๆ โดยคำนึงถึงตัวแปรไม่กี่ตัวแปร อาจจะนำไปสู่การเกิดความเสี่ยงและการเกิดความสูญเสียที่สูงขึ้น โดยวิธีการใหม่ที่นำมาใช้จะนำข้อมูลของทรัพย์สินภายนอกที่กำลังเติบโต เช่น ข้อมูลด้านเศรษฐกิจ อัตราการเกิดอาชญากรรม การจราจร และสภาพอากาศ เข้ามาคำนวณร่วมกับ AI เพื่อให้สามารถประเมินความเสี่ยงแบบไดนามิกได้ ทำให้สามารถรับมือกับความเสี่ยงและความสูญเสียได้หลายรูปแบบมากขึ้น และในเรื่องของราคา บริษัทประกันภัยจะนำข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุที่เป็นข้อมูลแบบเชิงพื้นที่ หรือระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) เข้ามาใช้ร่วมกับ AI และ Machine Learning (ML) ทำให้สามารถกำหนดราคาที่ถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้นได้
การเคลม
การเคลมประกันภัยนั้นมีความซับซ้อน เพราะมีประกันภัยมีหลากหลายประเภทและมีลักษณะที่แตกต่างกัน รวมไปถึงยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนกต่าง ๆ หลากแผนกทำให้เกิดความยุ่งยากมากยิ่งขึ้น ขั้นตอนเริ่มตั้งแต่ลูกค้ายื่นคำร้องไปจนถึงผู้รับประกันภัยสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้เราสามารถนำ Internet of Things (IoT) เข้ามาใช้ได้ เช่น เซนเซอร์ตรวจจับข้อเรียกร้องและเรียกผู้ยื่นคำร้องอัตโนมัติ รวมไปถึงการนำ AI เข้ามาช่วยให้กระบวนการเคลมเป็นไปอย่างอัตโนมัติ ซึ่งลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบการเคลม และลดค่าใช้จ่ายกระบวนการเคลมอีกด้วย
เขียนโดย Akiraz
อ้างอิงจาก Fabian Schramm (2021) The Impact of AI in Insurance, Available at: https://unit8.co/resources/the-impact-of-ai-in-insurance/ (Accessed: 27th September 2021).