มาดู 5 เคล็ดลับเพื่อสุขภาพสายตาของเรามีอะไรบ้าง
สวัสดีครับ ดวงตาถือว่าเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ สำหรับเรา เพราะฉะนั้นการดูแลสุขภาพดวงตาของเราให้ดีถือเป็นสิ่งที่จำเป็น ในแต่ละปีผู้คนหลายล้านคนได้ประสบกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสายตา หากเป็นปัญหาที่ไม่ร้ายแรงก็อาจจะสามารถแก้ไขด้วยการใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ได้ แต่บางครั้งหากเป็นปัญหาที่ร้ายแรงก็อาจจะทำให้เราสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรหรือตาบอดได้
สถาบันตาแห่งชาติได้ประเมินว่าในช่วงปี ค.ศ. 2010-2050 จำนวนคนที่ได้รับผลกระทบจากโรคตา รวมไปถึงโรคจุดภาพชัดที่จอตาเสื่อมในผู้สูงอายุ ต้อกระจก เบาหวานขึ้นจอตา และโรคต้อหินจะเพิ่มขึ้นสองเท่า
เราหลาย ๆ คนอาจจะละเลยความจริงที่ว่า เมื่อเราอายุมากขึ้นสายตาของเราก็จะเสื่อมลง แต่ยังไงก็ตามเรายังสามารถปรับปรุงการมองเห็นและปกป้องการมองเห็น รวมไปถึงโรคต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อดวงตาของเราได้ ซึ่งบทความนี้เราจะมาดูเกี่ยวกับวิธีการดูแลและปกป้องดวงตาของเรา 5 วิธีกันครับ
ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ
สิ่งสำคัญที่สุดที่เราสามารถทำเพื่อสายตาของเราได้คือการไปตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ ถึงแม้ว่าการมองเห็นของเราอาจจะยังปกติ แต่เราก็ไม่มีทางมั่นใจ 100% ว่าสุขภาพตาของเรายังดีอยู่ไหม
การทดสอบสายตาไม่เพียงแต่จะช่วยให้เรารู้ว่าเราต้องการใส่แว่นตาหรือไม่ แต่ยังระบุสภาพดวงตาของเราได้เป็นอย่างไรและสามารถรักษาได้ไหม
รู้หรือไม่ว่ามีการตรวจดวงตาประเภทหนึ่งที่เรียกว่าการตรวจโดยขยายม่านตาแบบครอบคลุมซึ่งแนะนำสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปหรือน้อยกว่านั้นถ้าหากเรามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับตาบางชนิด
หมอตาจะหยอดยาหยอดตาลงในตาแต่ละครั้งเพื่อขยายม่านตาในระหว่างการตรวจ เมื่อม่านตาขยายออกทำให้แสงจะเข้าสู่ดวงตามากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้หมอมองเห็นจุดภาพชัด จอประสาทตา และเส้นประสาทตา และระบุโรคในดวงตาได้
กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อตา
เราสามารถกินอาหารในแบบที่เราต้องการและยังดีต่อสุขภาพของตาได้ เรามักจะได้ยินว่าการกินแครอทมีประโยชน์ต่อตา แต่ก็ยังมีอาหารอื่น ๆ อีกมากมายที่มีความสำคัญต่อสายตาเช่นกัน
การบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยผักและผลไม้ช่วยให้มีสุขภาพตาที่ดีได้ โดยเฉพาะการกินผักใบสีเขียวเข้ม เช่น ผักคะน้า ผักโขม ซึ่งมีลูทินและซีแซนทินที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดต้อกระจกได้
องุ่นก็สามารถช่วยบำรุงสายตาได้เช่นกัน นักวิทยาศาสตร์ได้แสดงให้เห็นถึงแบบจำลองทางห้องปฏิบัติการของการเสื่อมสภาพของจอประสาทตาว่าอาหารที่เต็มไปด้วยองุ่นสามารถปกกันความเสียหายของจอประสาทตาจากการเกิดภาวะความไม่สมดุลของการเกิดอนุมูลอิสระได้
ในงานวิจัยอื่น ๆ ยังได้ระบุว่าองุ่นช่วยปกป้องดวงตามากกว่าลูทิน รวมไปถึงการชะลอหรือช่วยป้องกันการเกิดโรคจุดรับภาพเสื่อมในผู้สูงอายุ
จากการศึกษายังพบอีกว่าการบริโภคปลาที่อุดมไปด้วยโอเมกา 3 เช่น ปลาแซลมอน ปลาแฮลิบัต ปลาทู ปลาซาร์ดีน และปลาทูน่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพตา
โอเมกา 3 อาจจะสามารถช่วยการอักเสบของผิวลูกตา และอาการระคายเคืองตาที่เกี่ยวข้องกับอาหารตาแห้งในระดับปานกลางถึงรุนแรงได้ นอกจากนี้อาจจะช่วยปกป้องเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็นจากโรคหรืออาการบาดเจ็บในอนาคตได้
ควบคุมน้ำหนัก
การมีน้ำหนักเกินมาตรฐานหรือเป็นโรคอ้วนนั้นทำให้เราเกิดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคเบาหวาน หรือเกิดความผิดปกติต่อระบบการทำงานของร่างกาย ซึ่งอาจจะมีโอกาสนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็น
เราสามารถควบคุมน้ำหนักส่วนเกินของเราได้โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางสายตา
มหาวิทยาลักเมลเบิร์นในออสเตรเลียและมหาวิทยาลัยลีดส์เบ็คเก็ตต์ในอังกฤษได้ทำการวิจัยและพบว่า การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วอาจจะทำให้ดวงตาเกิดความเสียหายที่เกิดจากโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคอ้วนได้
ยังมีการศึกษาอื่น ๆ ที่ได้นำเสนอเมื่อเร็ว ๆ นี้ ในการประชุมประจำปีครั้งที่ 121 ของ American Academy of Ophthalmology ที่จัดขึ้นในเมืองนิวออร์ลีนส์ ได้รายงานว่าบุคคลที่เคลื่อนไหวร่างกายบ่อย ๆ มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต้อหินน้อยกว่าคนที่อยู่เฉย ๆ 73% การค้นพบนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการขยับร่างกายเป็นประจำ
สวมแว่นกันแดดเมื่อออกไปข้างนอก
นอกจากแว่นกันแดดจะเป็นเครื่องประดับแล้ว บทบาทสำคัญของแว่นกันแดดก็คือการปกป้องดวงตาของเราจะรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่ปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์
Vision Council ได้รายงานในปี ค.ศ. 2016 ว่าถึงแม้ว่าคนในสหรัฐอเมริกาจะมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาของรังสี UV ที่ส่งผลกระทบต่อตา แต่มีเพียงแค่ 31% ป้องกันตาโดยการสวมแว่นกันแดดเมื่อออกไปข้างนอก
ตอนที่เราเลือกแว่นกันแดด เราควรจะเลือกแบบที่ช่วยปกป้องดวงตาของเราได้ดีแทนที่จะเลือกตามแฟชั่น โดยควรเลือกแบบที่ป้องกันรังสี UVA และ UVB ที่สามารถป้องกันได้ 99%-100% และเลือกซื้อจากร้านขายแว่นที่น่าเชื่อถือด้วย
ไม่ว่าเราจะออกไปข้างนอกไปทำอะไรก็ตาม อย่าลืมปกป้องตาของเราโดยสวมแว่นกันแดดเสมอ ๆ
พักสายตาเป็นประจำ
หากเราทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน เราอาจจะลืมกะพริบตาบ่อย ๆ ทำให้เกิดอาหารปวดตาได้ สถาบันตาแห่งชาติได้แนะนำให้ใช้กฎ 20-20-20
กฎ 20-20-20 คือ ทุก ๆ 20 นาทีที่เราจ้องหน้าจอ ให้มองอย่างอื่นที่อยู่ข้างหน้าเราประมาณ 20 ฟุตเป็นระยะเวลา 20 วินาทีซึ่งช่วยลดอาการปวดตาได้
จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Ophthalmology ชี้ให้เห็นว่าการใช้เวลานอกบ้านมากขึ้นและใช้เวลาในการทำกิจกรรมที่ต้องจ้องมองใกล้ ๆ อย่างต่อเนื่องน้อยลง อาจจะเป็นวิธีการที่จะช่วยลดจำนวนผู้ที่สูญเสียการมองเห็นได้
หากเราต้องสวมแว่นตานิรภัยหรือแว่นตาในการทำงาน ให้สวมแว่นตาที่มีขนาดเหมาะสมเพื่อให้ดวงตาของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นการป้องกันความเสียหายหรืออาการเมื่อยล้าของดวงตาได้
เขียนโดย Akiraz
อ้างอิงจาก Hannah Nichols (2018) Five tips for healthy sight, Available at: https://www.medicalnewstoday.com/articles/320626 (Accessed: 9th October 2021).