Imposter Syndrome โรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง ภัยเงียบบั่นทอนชีวิตเรา
โรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง หรือการแพทย์เรียกว่า Imposter Syndrome โดยคนที่เป็นโรคนี้ จะมีอาการที่เรารู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง คิดว่าตัวเองไม่เก่ง ทำได้ไม่ดี รู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า จนทำให้เราไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรเลย หากเรากำลังมีอาการแบบนี้ ลองเช็คดูว่าเรามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคที่คิดว่าตัวเองไม่เก่งรึเปล่า
กลุ่มคนที่สมบูรณ์แบบ Perfectionists
คนที่เป็น Perfectionists จะต้องการให้ผลงานทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบ วางแผนทุกอย่างอยู่ตลอดเวลา มีระเบียบ ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง และมีความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์น้อย และมีความต้องการให้งานออกมาดีสมบูรณ์แบบ ซึ่งหากทำงานออกมาได้ไม่ดี หรือไม่เป็นที่พอใจ ก็จะทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองนั้นมีข้อผิดพลาด ไม่ประสบความสำเร็จ และอาจทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดีไม่พอ
กลุ่มคนที่คิดว่าตัวเองต้องทำงานได้ดีที่สุด Superman / Superwoman
คนประเภท Superman / Superwoman มักจะชอบคิดว่าตัวเองจะสามารถทำงานได้ดีในทุกครั้ง ซึ่งหากครั้งแรกดีก็ต้องทำให้ครั้งต่อไปให้ดีกว่าเดิม และมีความคาดหวังที่สูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแน่นอนมันเป็นแรงผลักดันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่หากเรากลับรู้สึกว่าตัวเองทำได้ไม่ดี มันควรจะดีกว่านี้ รู้สึกว่ามันผิดพลาด ท้อแท้กับผลงาน ไม่อยากที่จะทำต่อ และสุดท้ายก็ลงมือทำใหม่ หรือบางคนที่พบเจอกับความผิดพลาด หรือผลงานออกมาไม่เป็นที่พอใจ จนพยายามทำทุกทาง เพื่อให้งานออกมาดี จนหักโหมกับงาน ก่อให้เกิดความเครียด พักผ่อนน้อย ซึ่งอาจทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย และอาจทำให้ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเราแย่ลงไปด้วยก็เป็นได้
คนที่มีพรสวรรค์หรือฉลาดมาตั้งแต่เกิด และกลุ่มคนที่มีความเชี่ยวชาญ
การที่เป็นคนที่มีพรสวรรค์หรือคนที่เก่ง และมีความชำนาญมาก ๆ ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป เพราะแท้จริงแล้วเขาอาจจะแบกรับความกดดันจากตัวเองและคนรอบข้างเอาไว้ มากกว่าที่เราจะคิดได้ก็เป็นได้ เพราะความเก่งที่ทำให้คนภายนอกคาดหวังอยู่เสมอ ทำให้เขากลัวที่จะเกิดความผิดพลาด ซึ่งทำให้เราหักโหม และเครียดกับสิ่งที่ต้องทำมากเกินไป
ผลเสียของโรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง
โรคนี้จะทำให้เรารู้สึกผิดพลาด ท้อแท้กับสิ่งที่ไม่เป็นดั่งใจหวัง ทั้งที่จริงแล้วผลงานที่ทำออกมาอาจจะสร้างความพึงพอให้กับคนอื่นก็ได้ ด้วยตัวเองที่มีความคาดหวังที่สูงเกินทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองนั้นทำจะไม่สำเร็จ บางคนถึงกับไม่อยากที่จะลงมือที่จะทำต่อ ไม่อยากลองจะทำใหม่อีกครั้ง หรือเลิกทำสิ่งที่กำลังทำไปเลย และอาจจะทำให้ไม่กล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ ๆ อีก เพียงเพราะคิดว่าตัวเองนั้นไม่สามารถทำได้แน่เลย
สำหรับบางคนก็ไม่ได้ท้อแท้ แต่กลับพยายามทำให้ดีกว่าเดิม ซึ่งมองผ่าน ๆ อาจจะเป็นเรืองที่ดี เพราะเราได้พัฒนาตัวอง แต่หากทำมากเกินไปหรือ หักโหมจนเกินไป ให้เวลากับสิ่งนั้นมากเกินไปจนทำให้กิจวัตรในชีวิตเราเปลี่ยนไป ก็จะเป็นผลเสียกับตัวเราเองและคนรอบข้าง เพราะจะทำให้เราพักผ่อนน้อยลง ร่างกายอ่อนล้า เหนื่อยเพลีย ก่อให้เกิดความเครียดสะสม ซึ่งทำให้ร่างกายของเราไม่ดีไปด้วย อีกทั้งการที่เราพยายามทำอะไรจนมากเกินไป จะทำให้เรามีความทุกข์มากเกินขึ้น ซึ่งทำให้ความสุขของเราก็จะลดลงไปด้วยเพราะเรารู้สึกว่าตัวเองต้องพยายามทำให้ได้อยู่ตลอดเวลา อาจะทำให้เราเป็นโรคซึมเศร้าด้วย
ป้องกันได้ เริ่มที่ตัวเรา
ถึงแม้เราจะเป็นโรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง เราสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้ เช่น
จัดเวลาใหม่ หากเรากำลังให้เวลากับสิ่ง ๆ หนึ่งมากจนเกินไป ลองปรับลดลงมา แล้วเอาเวลามาให้ตัวเราเองให้ได้พักผ่อนมากยิ่งขึ้น หรือหากว่าเรารู้สึกว่าทำสิ่งนั้นน้อยเกินไป ก็อาจจะให้เวลาเพิ่มสักหน่อย แต่ไม่ควรเกิน 30 นาที หรือเราอาจจะเพิ่มเวลาให้กับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่อยากทำ เพื่อพัฒนาตัวเองไปด้วย และสร้างความสุขให้กับเราเอง
อย่าลืมที่จะดูแลสุขภาพกายและใจ พักผ่อนให้เพียงพอ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย หากเราเครียดมาก หรือเหนื่อยล้า ก็ลองไปนวดหรือสปาดู จะได้ผ่อนคลายและคลายเครียดไปด้วยในเวลาเดียวกัน
ถ้าหากคิดงานไม่ออก มีความเครียด สมองตัน ลองนั่งสมาธิดูสิ แค่ลองทำสมาธิสัก 5 นาที เพื่อให้เราไม่คิดฟุ้งซ่าน และสงบมากขึ้น สมองปลอดโปร่ง และสามารถคิดงานได้ต่อไปได้
หยุดเปรียบเทียบตัวเรากับคนอื่น นี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่บั่นทอนชีวิตเราอย่างมาก ซึ่งทำให้เราสูญเสียความเป็นตัวเองไป
สรุปบทความโดย Amr
รวิศ หาญอุตสาหะ (2020) กลัวถูกจับได้ว่าตัวเองไม่เก่ง รู้จัก Impostor Syndrome ยิ่งสำเร็จยิ่งมีโอกาสเป็น?, Available at: https://thestandard.co/impostor-syndrome/ (Accessed: 14 January 2020).
immie (2020) Imposter Syndrome โรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง ภัยเงียบบั่นทอนชีวิตเรา, Available at: https://goodlifeupdate.com/uncategorized/208291.html (Accessed: 3 August 2020).